
ศิษยานุศิษย์นับหมื่น สวมชุดขาวหลั่งไหลร่วมพิธีลอดซุ้มประตูป่าปีที่ 70 เพื่อขจัดปัดเป่า สิ่งอัปมงคลเสริมมงคลชีวิต ในงานยกครูบูชาคุณ “หลวงปูสีมั่น เทพอินโท“ ในวันวิสาขบูชาของทุกปีซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นหนึ่งเดียวในสยามประเทศที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานเป็นปีที่ 70 ทั้งนี้ สตรีมีครรภ์และมีประจำเดือน ห้ามลอดซุ้มประตูป่าโดยเด็ดขาด

วันนี้ 11 พ.ค. 68 ที่วัดห้วยหลาด ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จัดพิธีลอดซุ้มประตูป่า “วันวิสาขบูชา” ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นหนึ่งเดียวที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 70 ปี พิธีสรงน้ำหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท พระผู้สร้างวัดแห่งนี้ด้าน พระปลัดวรวิท ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดห้วยหลาด เปิดเผยว่า สำหรับพิธีพิธีลอดซุ้มประตูป่าวัดห้วยหลาด เป็นพิธีที่ได้คำชี้แนะมาจาก “หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท” ที่ได้ลงมาประทับทรงในร่างของพระอธิการขาว ติสฺสวํโส หรือ หลวงปู่ขาว เจ้าอาวาสวัดรูปที่ 3

โดยให้มีพิธีลอดซุ้มประตูป่า เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญที่วัด บางคนโดนคุณไสยต่างๆ มาก็เชื่อกันว่าการลอดซุ้มประตูป่าจะช่วยทำให้สิ่งชั่วร้ายหายไปได้ อีกอย่างคือถือเป็นพิธีสร้างขวัญกำลังใจในยุคที่ปัญหาในสังคมเกิดขึ้นมากมายมาหาที่พึ่งอย่างน้อยก็พึ่งพระรัตนตรัย ซึ่งไม่ได้มีเรื่องของไสยศาสตร์ที่จะทำให้พุทธศาสนิกชนงมงายแต่อย่างใด เป็นเพียงการเน้นเรื่องการสวดพุทธมนต์ต่างๆมากกว่า ซึ่งที่วัดห้วยหลาดถือเป็นหนึ่งเดียวในสยามประเทศที่ยังไม่มีที่ไหนทำ และมีความศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏชัดขึ้นทุกปีจากการที่เห็นศิษยานุศิษย์ต่างหลั่งไหลกันมาเพิ่มขึ้นทุกปี โดยวัดจัดให้มีพิธีลอดซุ้มประตูป่าเป็นประจำทุกๆ ปีในวันวิสาขบูชา

สำหรับพิธีลอดซุ้มประตูป่า “วัดห้วยหลาด” ได้สืบต่อปฏิบัติกันมายาวนาน จนเป็นประเพณีประจำปีของทางวัด ในสมัยของ”พระครูโกวิทธรรมสาร” หรือ “อาจารย์กลาย” อดีตเจ้าคณะอำเภอรัตภูมิ และอดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยหลาด พิธีลอดซุ้มประตูป่าได้เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ให้ความสนใจร่วมพิธีเป็นจำนวนมากในทุกปี และแม้ว่าจะสิ้นอายุขัยพ่อท่านกลายเมื่อปี พ.ศ.2559 แต่พระปลัดวรวิท ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสรูปปัจุบัน ได้สืบทอดพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่คู่วัดห้วยหลาด สืบต่อมาในทุกปีในวันวิสาขบูชา


โดยในพิธียกครูบูชาคุณ ถวายมหาสังฆทานจะร่วมกันก่อนเข้าสู่พิธีลอดซุ้มประตูป่า โดยมีเจ้าอาวาสวัดห้วยหลาด และคณะภิกษุนำขบวนลอดซุ้มประตูป่าผ่านซุ้มจากนั้น พระภิกษุสงฆ์จะมานั่งเจริญพระพุทธมนต์และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ญาติโยม พร้อมทั้งสวดมนต์เพื่ออวยพรชัย เพื่อปัดเป่าสิ่งอัปมงคลและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และเพื่อความเป็นการเสริมสิริมงคล ทั้งนี้ สตรีมีครรภ์และมีประจำเดือน ห้ามลอดซุ้มประตูป่าโดยเด็ดขาดตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อที่จะกำจัดทุกข์กำจัดภัยสัพเคราะห์ บางคนโดนคุณไสยอาถรรพ์ต่างๆ ก็จะจางหายไปตามความเชื่อของพิธีลอดซุ้มประตูป่า และเป็นหนึ่งเดียวในสยามประเทศที่ไม่มีใครทำ มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฎชัดขึ้นในทุกปีที่เราได้ห็น อีกอย่างหนึ่งก็คือการสร้างขวัญกำลังใจ ยิ่งในยุคปัญจุบันเรามีปัญหาอะไรมากมายเราก็มาหาที่พึ่งอย่างน้อยก็พึ่งพระรัตนตรัย มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ไม่ได้มีเรื่องไสยาศาสตร์ที่จะทำให้เรางมงายอย่างนั้น


ท้ายนี้ขอฝากไปยังประชาชนทุกท่านว่าให้มีสติในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด รู้สึกตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราก็ปฎิเสธเรื่องที่พึ่งทางใจไม่ได้ ถ้าใจเราไม่มีที่พึ่งสติก็หายากหมือนกันเพราะฉะนั้นอย่างน้อยเราก็มาพึ่งพิธีกรรมดีกว่าไปพึ่งเหล้าหรือสุรา การพนัน หรือสิ่งอัปมงคล เราหันมาพึ่งสิ่งมงคลดีกว่า

บรรยากาศภายในงานตลอดช่วงเวลาช่วงบ่ายมีประชาชนต่อแถวคิวยาวไปจนถึงหน้าวัด คาดว่าในช่วงเย็นจะมีชาวบ้านในพื้นที่และจากทุกทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานอีกจำนวนมาก ถือเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย.




