วันอาทิตย์, 8 มิถุนายน 2568
วันอาทิตย์, 8 มิถุนายน 2568

ศอ.บต. ร่วมกับพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมโบราณ การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

เมื่อ 28 พฤษภาคม 2568 พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมายให้ นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วย นายมาหะมะลุตฟี หะยีสาแม ประธานพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน และคณะ พบปะหารือกับ ดร. ชาฮ์รูด อะมีรเอ็นเตคฮอบี (Dr. Shahroud Amirantekhabi) ผู้อำนวยการการจัดการพระราชวังเนียวาราน ณ พระราชวังเนียวราน (Niavaran Palace Complex) เพื่อประสานความสัมพันธ์ไทยอิหร่าน และความร่วมมือในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและการจัดการพระราชวังและพิพิธภัณฑ์เก่าแก่

จากนั้นคณะได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาเรียนรู้พระราชวังเนียวาราน (Niavaran Palace Complex) ของราชวงศ์กาจาร์และราชวงศ์ปาลาวีแห่งจักรวรรดิเปอร์เซียในศตวรรษที่ 18 – 20 ซึ่งเป็นราชวงศ์กษัตริย์ช่วงสุดท้ายก่อนเปลี่ยนระบอบการปกครองในปัจจุบันเป็นสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (Islamic Republic of Iran) ในปี ค.ศ. 1979 ทั้งนี้ พระราชวังเนียวารานมีความโดดเด่นในเรื่องการจัดแสดงห้องต่าง ๆ ตามวิถีชีวิตของราชวงศ์ โดยใช้นวัตกรรมที่ล้ำสมัยควบคู่กับสถาปัตยกรรมเปอร์เซียผสมตะวันตก เช่น มีหลังคาขนาดใหญ่พับเปิด-ปิดเพื่อดูท้องฟ้าได้ (Retractable aluminum roof) และสวนเปอร์เซียที่มีระบบชลประทานส่งน้ำได้ไกลกว่า 70 กม. ที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO เป็นต้น นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องคอลเลกชั่นงานศิลปะภาพวาดและวัตถุสะสมหายากจากทั่วโลก

ภายในพระราชวังเนียวาราน มีหลายตึกพิพิธภัณฑ์ที่กำลังซ่อมแซม ทำให้คณะได้มีโอกาสศึกษาวิธีการจัดเตรียมพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มแรกก่อนเปิดอนุญาตให้เข้าชม เช่น การหีบห่อวัตถุโบราณอย่างเฉพาะเจาะจง การบันทึกคอลเลกชั่นวัตถุโบราณด้วยป้ายกำกับ และการซ่อมแซมชิ้นส่วนอาคารที่เสียหาย เป็นต้น

การเยี่ยมชมครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ที่ทางพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน ของประเทศไทย จะได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับไปยกระดับการพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยโดย ศอ.บต. และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย