

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รักน้ำ รักป่า รักษาแผ่นดิน” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี โดยมีผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการ บุคลากรของ อบจ.สงขลา นักเรียน และหน่วยงานราชการในพื้นที่เข้าร่วม พร้อมร่วมกันปลูกไม้ยืนต้นจำนวน 150 ต้น ได้แก่ ต้นตะเคียนทอง ต้นยางนา ต้นกันเกรา และต้นพะยอม



นายฉัตรเพชร ครุอำโพธิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวรายงานว่า ทรัพยากรป่าไม้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสมดุลของระบบนิเวศ ทั้งในแง่การเป็นแหล่งวัตถุดิบพื้นฐานสำหรับปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค อีกทั้งยังช่วยในการรักษาดินและน้ำ ป้องกันภัยพิบัติเช่น น้ำท่วมฉับพลัน และลดผลกระทบจากภาวะน้ำหลาก ปัจจุบัน พื้นที่ป่าของประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง อันมีสาเหตุหลักจากการตัดไม้ทำลายป่า การเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จึงจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน เยาวชน และนักเรียน มีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดมลพิษทางอากาศ และสร้างภูมิทัศน์ที่งดงามให้แก่สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์



ด้านนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วิกฤตความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ หรือป่าไม้ ล้วนมีสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียพื้นที่สีเขียว และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก การปลูกต้นไม้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยพลัง ที่จะช่วยดูแล ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลดมลพิษและผลกระทบจากภาวะโลกร้อน






การส่งเสริมให้เยาวชนและภาคประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการปลูกต้นไม้และดูแลทรัพยากรในท้องถิ่นของตน ถือเป็นแนวทางที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เพราะต้นไม้ไม่เพียงช่วยฟอกอากาศและดูดซับมลพิษ แต่ยังเป็นรากฐานของระบบนิเวศที่ยั่งยืน กิจกรรมในวันนี้จึงถือเป็นการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของจังหวัดสงขลา”