มรภ.สงขลา สุดปลื้ม “ผศ.ดร.โสภณ ชัยวัฒนกุลวานิช” คณบดีคณะครุศาสตร์ รับโล่ศิษย์เก่าเกียรติยศ ประจำปี 2568 ประเภทผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษา สังคม หรือประเทศชาติ จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิดชูเกียรติผู้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาการศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครูและนักการศึกษาไทย
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ผศ.ดร.โสภณ ชัยวัฒนกุลวานิช คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 68 ปี แห่งการสถาปนาคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา อาคารเฉลิมราชสุดา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โอกาสนี้ ผศ.ดร.โสภณ ชัยวัฒนกุลวานิช ได้รับมอบโล่ “ศิษย์เก่าเกียรติยศ ประจำปี 2568” ประเภทผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษา สังคม หรือประเทศชาติ ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติศิษย์เก่าที่ได้สร้างคุณูปการสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาและสังคมอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครูและนักการศึกษาไทย
การมอบโล่เกียรติยศในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนาคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งครบรอบ 68 ปี ในปี 2568 โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายเพื่อรำลึกถึงความเป็นมาและความสำคัญของคณะครุศาสตร์ในฐานะสถาบันผลิตครูชั้นนำของประเทศ
ผศ.ดร.โสภณ กล่าวถึงมุมมองที่มีต่อการพัฒนาการศึกษาหรือวิชาชีพครู ว่า การพัฒนาวิชาชีพครูเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุดที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระบบการศึกษา ครูไม่เพียงแต่มีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เท่านั้น แต่ยังต้องสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนด้วย ดังนั้น การพัฒนาวิชาชีพครูจึงต้องอาศัยความรู้ เทคนิคการสอน ประสบการณ์และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างครูยังช่วยสร้างมุมมองและวิธีการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ อีกด้วย การเพิ่มสถานะทางสังคมและการได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมจะช่วยดึงดูดเยาวชนที่มีความสามารถให้เข้ามาประกอบอาชีพนี้ นอกจากนั้น การพัฒนาวิชาชีพครูควรผลิตครูที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการสร้างการเรียนรู้ที่มีความหมายซึ่งจะตอบสนองความต้องการของโลกในอนาคตได้อย่างแท้จริง
“ผมรู้สึกซาบซึ้งใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโล่ศิษย์เก่าเกียรติยศ ประจำปี 2568 จากคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันที่หล่อหลอมความเป็นครู นักพัฒนา และนักการศึกษาให้กับผมมาตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางที่ผมได้เลือกเดิน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของอาจารย์ นักบริหารหรือนักพัฒนาการศึกษา ล้วนมีรากฐานจากคุณค่าและหลักการที่ได้เรียนรู้จากที่นี่ การได้รับการยกย่องในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเกียรติส่วนตัวเท่านั้นแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประโยชน์วงการศึกษา สังคม หรือประเทศชาติต่อไป กระผมขอขอบคุณคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มองเห็นคุณค่าในการทำงานเบื้องหลัง และมอบเกียรติอันสูงยิ่งนี้ให้แก่ครูและนักการศึกษาทุกคนที่ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจเพื่ออนาคตของชาติต่อไป” ผศ.ดร.โสภณ กล่าว