วันพฤหัสบดี, 17 กรกฎาคม 2568
วันพฤหัสบดี, 17 กรกฎาคม 2568

ปราบปรามยาเสพติด 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทลาย 3 เครือข่าย ยึดยาบ้ากว่า 1.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 316 กก.

   เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 02.50 น. เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 (บก.สส.จชต.) ได้จับกุมนายสมพล อายุ 28 ปี และนายสุไลมาน อายุ 41 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,272,600 เม็ด, รถยนต์กระบะ Toyota Revo 1 คัน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง การจับกุมเกิดขึ้นที่ด่านตรวจเกาะหม้อแกง อำเภอหนองจิก และริมถนนสาย 42 อำเภอเมืองปัตตานี ผู้ต้องหาได้ลักลอบขนยาเสพติดจากจังหวัดสงขลามายังพื้นที่ชายแดนใต้ โดยใช้รถกระบะตู้ทึบ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและสกัดจับได้ทันก่อนที่จะส่งมอบยาเสพติด

 * เครือข่ายที่ 2: ยึดไอซ์ 317 กก.

   เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปัตตานี ได้จับกุมนายดาโอะ อายุ 69 ปี บริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมของกลางยาไอซ์ 317 กิโลกรัม, รถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลำเลียงไอซ์จากภาคกลางมาส่งให้เครือข่ายในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยใช้รถบรรทุกเพื่ออำพรางการขนส่ง หลังจากติดตามและเฝ้าระวัง จึงสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมาก

 * เครือข่ายที่ 3: ยึดยาบ้า 420,000 เม็ด จับผู้ต้องหา 4 ราย

   เมื่อเช้าวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ สภ.กรงปินัง จังหวัดยะลา และ ตชด.44 ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายมุสลิม อายุ 29 ปี, น.ส.ฮาญานี อายุ 24 ปี, นายธีรภพ อายุ 30 ปี และนายอาแพนดี (จับกุมเพิ่มเติมภายหลัง) พร้อมของกลางยาบ้า 420,000 เม็ด, รถยนต์ 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก การจับกุมในครั้งนี้เริ่มต้นจากการล่อซื้อยาบ้า 100,000 เม็ด ที่กระท่อมในหมู่บ้านสะเอะ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา และได้ขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมเครือข่ายและของกลางเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงร้านอาหารและสวนยางพารา

จากการปฏิบัติการทั้ง 3 เครือข่าย เจ้าหน้าที่สามารถยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายเพิ่มเติม รวมถึงดำเนินมาตรการด้านทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรยาเสพติด ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการขจัดภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น