วันพฤหัสบดี, 17 กรกฎาคม 2568
วันพฤหัสบดี, 17 กรกฎาคม 2568

ตำรวจท่องเที่ยวจับคลีนิคเถื่อนของชาวรัสเซียรายได้งาม 3แสนต่อเดือน

วันนี้ 16 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ บช.ทท.ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม แรงงานข้ามชาติ แย่งอาชีพคนไทยสั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 พร้อมกำลัง จับกุม นางสาวสายธาน สินชัยศรี อายุ 43 ปี ชาว ม.6 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ ร้าน LASER ME 3/10 ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

พร้อมด้วยของกลาง 1 โบรชัวร์ร้าน LASER ME 2 เครื่องเลเซอร์ฝ้า 3 เครื่องเลเซอร์กระชับรูขุมขน 4 เครื่องเลเซอร์กำจัดขน 5 เตียงเวชกรรม 6 แว่นกันรังสีและเลเซอร์ 7 กางเกงในสำหรับเวชกรรม

8 น้ำกลั่น9 ผ้ารองเตียงเวชกรรม สีขาว10 ผ้ารองเตียงเวชกรรม สีชมพู 11 เจล IPL CLEARING

12 ถุงมือไนโตรไวนิล 13 มีดโกนหนวด 14 กระดาษทิชชู่15 ใบแจ้งก่อนเข้ารับการรักษา 16 แก้วสำหรับครอบ 17 ธนบัตร 1,000 บาท 18 ธนบัตร 100 บาท

พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดตั้งกิจการสถานประกอบการพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์ในการจับกุม เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับการร้องเรียนจากชาวต่างชาติกรณีชาวต่างชาติ ได้เดินทางไปทำศัลยกรรมผิวหนังโดยการใช้เลเซอร์ ยิงลงบนร่างกาย ซึ่งทำโดยผู้หญิงชาวรัสเซีย ไม่ทราบชื่อ ต่อมาได้เกิดรอยแผลไหม้ แผลเป็น และเกิดการอักเสบอย่างรุนแรงตามจุดที่ได้ทำการเลเซอร์ จึงได้ร้องเรียนมายังตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน เพื่อขอให้ช่วยทำการตรวจสอบคลินิก เบื้องต้นชาวต่างชาติได้ทำการติดต่อไปยังร้านดังกล่าวเพื่อขอให้ร้านชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทางร้านได้ปฎิเสธพร้อมทั้งข่มขู่และได้ปิดกั้นการติดต่อของนักท่องเที่ยวไป วันนี้ที่ 16 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าว ผลปรากฏว่า ร้านดังกล่าวมีการเปิดให้บริการ จริง และกำลังเปิดให้บริการ มีลูกค้ากำลังใช้บริการ และพบการรีวิวในแอพพลิเคชั่น GOOGLE MAPS ของสถานที่ดังกล่าว LASER ME พบว่ามีลูกค้าอื่นๆจำนวนมากที่ได้รับความเสียหาย

จากสอบถามนางสาวสายธาน ให้การยอมรับว่า คลินิกนี้เป็นของชาวรัสเซีย และไม่ได้อาศัยอยู่ที่ประเทศไทย โดยรับทำเกี่ยวกับเวชกรรมความงาม เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ใบหน้า นวดน้ำมัน และครอบแก้วแบบรัสเซีย การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อความงาม การบำบัดผิวด้วยเลเซอร์

การเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์

การใช้เลเซอร์ในการฟื้นฟูสภาพผิวการทำทรีตเมนต์ผิวด้วยเลเซอร์การฟื้นฟูผิวพรรณด้วยแสงเลเซอร์โดยภายในร้านมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำเวชกรรมอย่างครบถ้วน ราคาขึ้นอยู่กับคอร์สของลูกค้าที่เลือกใช้บริการ โดยตนได้ถูกว่าจ้างจาก บริษัท เลซอร์ มี จำกัด ให้มาเป็นผู้จัดการร้านและมีหน้าที่ทำเวชกรรมเลเซอร์ นวด ครอบแก้วรัสเซียให้กับลูกค้า โดยนางสาวสายธาน จะได้รับตารางที่ลูกค้าจะเข้าใช้บริการมาจาก Ms.Olesiaฯ ซึ่งได้รับเงินเดือนแบ่งเป็นเปอร์เซ็น 25% จากรายได้ต่อเดือน

นางสาวสายธานให้การยอมรับว่าสถานที่นี้ไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งสถานพยาบาลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถามถึงข้อมูลทั่วไปทราบว่าที่ร้านจะมีลูกค้าเฉลี่ยประมาณวันละ 3-4 คน โดยตลอด 6 เดือนที่ผ่านมามีลูกค้าประมาณ 600 ราย โดยรายได้เฉลี่ยของร้านต่อเดือนประมาณ 300,000 บาท ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียด้วยกัน 

🚩เคสนี้สืบเนื่องมีการร้องเรียนผ่านตำรวจท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่สถานฑูต อังกฤษ ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ สถานคลีนิคว่ามีการเปิดถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากมีพลเมืองชาวอังกฤษ เดินทางมาขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ได้เข้าไปศัยกรรมผ่านเลเซอ ที่คบีนิคดังกล่าวหลังจากที่ทำศัยกรรมเสร็จ พบมีการอักเสพอย่างรุนแรง  จนเกิดเป็นแผลตามร่างกาย อีกรายเป็นนักท่องเที่ยว ชาวอิสราเอล ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1155 ตำรวจท่องเที่ยว ขอความช่วยเหลือ หลังเข้าไป ทำ ศัยกรรมผิวหนัง ร่างกายกลับเกิดอาการอักเสพ และ เน่า เป็นแผลตามเรือนร่าง อยากให้ตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจสอบ และ ขอเงินคือ เป็นวงเงิน 48000 บาท อีกราย ไม่ขอเปิดนาม ร้องเรียนว่า หลังจากเข้ารับการบริการใช่แสงเลเซอร์จากทางร้านคลีนิคดังกล่าวพบว่า มีอาการอักเสพ แผลเปื่อย เน่า ที่ต้นขา และ อีกหลายฯ เคส ที่เกิดขึ้นบ่างรายไม่กล้ามาร้องทุข  จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ประชุมชุดสืบสวน เร่งออกหาข่าวจนพบว่ามีการแอบลักลอบเปิดสถานเสริมความงาน เปิดเป็นคลีนิคจริง  แต่แต่ป้ายปิดให้บริการแปะติดหน้าร้านและล็อกประตูแน่นหนา ภายในแอบเปิดให้บริการอยู่ มีลูกค้าเข้าออก มีคนเปิดประตูให้บริการ มีการระวังเป็นอย่างมาก ตบตาเจ้าหน้าที่  จึ่งได้วางแผนเป็น ไรเดอ ส่งอาหาร เคาะประตู จนนำไปสู่การจับกุม ครั้งนี้ ซึ่งเป็นการทะลายคลีนิคเถื่อนที่มีอันตรายต่อชีวิต ทำให้ นักท่องเที่ยวบางรายเกือบโดนตัดขา เพราะอาการอักเสพเน่า เจ้าหน้าที่ ยึดอุปกรณ์ของกลาง จำนวนหลายล้าน บาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร้องทุกกล่าวโทษ ต่อ บริษัท ดังกล่าวสืบสวน ขยายผล นอมินี ต่อไป

ทั้งนี้ทางท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ

ผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจ

ท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและ

พื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย